ทั้งนี้ ทางด้านหน้าของพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง จะเป็นที่ตั้งของหอพระบาง อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบางพุทธลาวัลย์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง สามารถเข้าไปกราบไหว้ขอพรและเที่ยวชมกันได้
จุดเช็กอินที่น่าสนใจในเขตเมืองเก่าหลวงพระบาง อาทิ วัดเชียงทอง, วัดใหม่สุวรรณภูมาราม, พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง, พระธาตุภูสี, ตลาดดารา, วัดมหาธาตุ, โจมา เบเกอรี่ คาเฟ่, ตลาดเช้า, ตลาดมืด, สะพานไม้ไผ่ข้ามแม่น้ำคาน, ศูนย์หัตถกรรมผ้าทอออกพบตก และ Saffron Coffee เป็นต้น
4. น้ำตกตาดกวางสี หลวงพระบาง
น้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดของหลวงพระบาง ตั้งอยู่ใจกลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้นที่สูงที่สุดมีความสูงมากถึง 75 เมตร ซึ่งสายน้ำมหาศาลจะไหลลงมาตามหน้าผาแนว 90 องศาสู่แอ่งน้ำกว้างเบื้องล่าง ก่อนจะไหลลงไปตามชั้นต่าง ๆ บางวันจะมีรุ้งกินน้ำพาดผ่านน้ำตก เป็นภาพที่สวยงามมาก มีสะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปรอบน้ำตก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปเที่ยวชมได้อย่างใกล้ชิด ส่วนถ้าใครอยากเล่นน้ำก็มีแอ่งน้ำในชั้นล่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ พร้อมทั้งพื้นที่นั่งปิกนิก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ
5. น้ำตกตาดแส้ หลวงพระบาง
อีกหนึ่งน้ำตกที่มีความสวยงามของหลวงพระบาง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเก่าหลวงพระบางราว ๆ 15 กิโลเมตร การจะเข้าไปยังน้ำตกตาดแส้จะต้องไปลงเรือหางยาวของชาวบ้านที่บริเวณหมู่บ้านบ้านแอน นั่งเรือไปราว ๆ 10 นาที ก็จะพบกับน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าเขียวขจี น้ำในน้ำตกจะเป็นสีฟ้าเขียวมรกตใสเย็นเจี๊ยบ สามารถลงเล่นน้ำได้หลายจุด มีสะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปทั่วน้ำตก ใครจะนั่งพักเอาเท้าหย่อนน้ำตรงไหนก็ได้ มีร้านอาหารให้บริการ
6. หนองเขียว หลวงพระบาง
เป็นเมืองท่องเที่ยวในหุบเขาขวัญใจนักท่องเที่ยวแนวแบ็กแพ็กเกอร์แห่งใหม่ของประเทศลาว ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเก่าหลวงพระบางประมาณ 140 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเมืองเล็ก ๆ ริมคุ้งแม่น้ำอู ด้านหลังของเมืองเป็นภูเขาสูงใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบมาก ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย มีวิถีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ ยอดผาแดง ซึ่งเป็นหน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวเมืองหนองเขียวได้แบบ 360 องศา พร้อมกับเห็นแม่น้ำอูที่ลัดเลาะแนวภูเขากับภูเขาลูกใหญ่ที่มีรูปร่างสวยแปลกตา เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ถ้ามาเที่ยวหน้าฝน ก็จะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
7. พระธาตุหลวง เวียงจันทน์
ปูชนียสถานที่สำคัญของเมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดดเด่นด้วยพระธาตุสีเหลืองทองอร่าม สูงราว ๆ 45 เมตร พระธาตุตรงกลางมีรูปทรงคล้ายกับดอกบัวตูม รายล้อมด้วยพระธาตุองค์เล็กโดยรอบอีก 30 องค์ ซึ่งพระธาตุเล็ก ๆ เหล่านี้ก็มีแผ่นทองคำอยู่ด้วย ทั้งนี้ก็มีหอไหว้ทั้ง 4 ด้าน และมีบันไดขึ้นหอไหว้ทุกด้าน ในแต่ละปีจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุหลวงในวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ประชาชนจะมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก บรรยากาศสนุกสนาน
8. ประตูชัย หรือประตูไซ เวียงจันทน์
แลนด์มาร์กที่สำคัญของเวียงจันทน์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1957-1968 เพื่อสดุดีวีรชนที่ร่วมรบในการประกาศเอกราชกับฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นประตูรูปทรงคล้ายกับอาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล หรือ ประตูชัยฝรั่งเศส แต่ตกแต่งในแบบศิลปะล้านช้าง ด้านหน้าเป็นลานน้ำพุกับสวนกว้าง ในช่วงยามเย็นจะมีการเปิดน้ำพุ บรรยากาศสวยงาม
9. สวนพระ เวียงจันทน์
สวนพระ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เชียงควน (Xieng Khuan) ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเวียงจันทน์ ห่างจากตัวเมืองราว ๆ 20 กิโลเมตร แต่อยู่ห่างจากฝั่งจังหวัดหนองคายบริเวณสะพานมิตรภาพหนองคาย เพียงแค่ราว ๆ 10 กิโลเมตรเท่านั้น ตัววัดอยู่ใกล้กับลำน้ำโขง โดดเด่นด้วยรูปปั้นของพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามศาสนาพุทธและฮินดูมากกว่า 200 องค์ ซึ่งตั้งกระจายตัวอย่างสวยงามอยู่รอบ ๆ สวน และยังร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ
10. น้ำตกตาดฟาน จำปาสัก
น้ำตกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ตั้งอยู่ในเมืองปากซ่อง (Paksong) ห่างจากเมืองปากเซราว ๆ 37 กิโลเมตร และห่างจากด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี เพียงแค่ประมาณ 80 กิโลเมตรเท่านั้น ความสวยงามของน้ำตกตาดฟานอยู่ที่การเป็นน้ำตก 2 สายไหลดิ่งลงหน้าผาสูงกว่า 100 เมตร อันเป็นปากปล่องภูเขาไฟโบราณ ท่ามกลางป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์
แต่ไฮไลต์ของที่นี่ ก็คือ กิจกรรมแนวผจญภัย ทั้งการโหนซิปไลน์ข้ามน้ำตก และการปีนหน้าผาบริเวณน้ำตก ทั้งนี้กิจกรรมโหนซิปไลน์ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะเป็นซิปไลน์ที่มีความสูงราว ๆ 220 เมตรเลยทีเดียว และยังมีให้เลือกว่าจะโหนไปด้วยมือเฉย ๆ หรือจะนั่งจิบกาแฟ รับประกันความหวาดเสียว
11. ที่ราบสูงโบลาเวน (Bolaven Plateau) จำปาสัก
เป็นพื้นที่ราบสูงบริเวณแขวงจำปาสัก ซึ่งสูงจากน้ำทะเลราว ๆ 1,000-1,400 เมตร พื้นที่โดยรอบมีความสมบูรณ์มาก รายล้อมไปด้วยป่าเขามากมาย มีน้ำตกสวย ๆ หลายแห่ง พร้อมทั้งเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง แต่สิ่งที่ทำให้ที่ราบสูงโบลาเวนเป็นที่รู้จัก ก็คือ ไร่กาแฟอาราบิก้า เพราะทั้งโลเคชั่นและอากาศที่เหมาะสมต่อการปลูก ทำให้กาแฟของที่นี่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมลงตัว กลิ่นหอมดึงดูดสุด ๆ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตที่ราบสูงโบลาเวน อาทิ น้ำตกตาดฟาน, น้ำตกยาดเยื้อง, ตาดจำปี, อุทยานแห่งชาติดงหัวสาว, ตาดขมึด, ตาดเสือ และตาดผาส้วม เป็นต้น
12. สี่พันดอน จำปาสัก
เป็นหมู่เกาะในแม่น้ำโขง บริเวณแขวงจำปาสัก โดยมีเกาะเล็กเกาะน้อยแตกย่อยออกมามากกว่า 4,000 เกาะ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า สี่พันดอน โดยแต่ละเกาะจะมีชาวบ้านอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงและการเกษตร ภายในสี่พันดอนจะมีแหล่งท่องเที่ยวโด่งดังอยู่ 2 แห่ง คือ น้ำตกหลี่ผี และน้ำตกคอนพะเพ็ง
สำหรับน้ำตกหลี่ผี จะเป็นน้ำตกที่อยู่ระหว่างดอนคอน (Don Khon) และดอน Sanlat มีลักษณะเป็นแก่งหินสีดำขนาดน้อยใหญ่ขวางลำน้ำโขง เกิดเป็นน้ำตกขนาดมหึมาที่มีพื้นที่กว้างขวางมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา สามารถที่จะชมได้จากฝั่งประเทศกัมพูชาด้วย
ส่วนน้ำตกคอนพะเพ็ง จะอยู่ทางฝั่งแผ่นดินใหญ่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินในลำน้ำโขง ทำให้เกิดแก่งหินสีดำน้อยใหญ่ขวางลำน้ำโขงเช่นกัน และทำให้กลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีรูปร่างสวยงามราวกับน้ำตกไนแองการาในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา นักท่องเที่ยวจึงให้ฉายาว่า ไอแองการาแห่งเอเชีย
13. ปราสาทหินวัดพู จำปาสัก
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองปากเซราว ๆ 40 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานที่สำคัญทางฝั่งลาวใต้ มีอายุมากกว่า 1,000 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 ตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา มีสถาปัตยกรรมแบบขอม บริเวณโดยรอบจะมีสระน้ำใหญ่อยู่ด้านหน้า 2 สระ เลยจากสระน้ำเข้าไปจะเป็นทางเดินที่ทอดยาวเข้าสู่ตัวปราสาท โดยองค์ประธานของปราสาทจะอยู่ด้านในสุดบนเชิงเขา ถ้ามีเที่ยวช่วงฤดูฝนก็จะได้เห็นป่าเขาและบริเวณโดยรอบของปราสาทเป็นสีเขียวตัดกับสีน้ำตาลของปราสาทอย่างสวยงาม ทั้งนี้ปราสาทหินวัดพูได้รับการจดขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2001
14. ตาดแซป่องไล อัตตะปือ
น้ำตกลับใจกลางป่าแห่งแขวงอัตตะปือ ห่างจากเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ราว ๆ 120 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่อยู่บนลำน้ำวังเงา (Vang Ngao River) เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินทำให้กลายเป็นน้ำตกลักษณะคล้ายกับกำแพงม่านน้ำกว้างใหญ่ ในช่วงหน้าน้ำจะมีน้ำจำนวนมหาศาลจนแทบไม่เห็นร่องหินบนน้ำตก แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งน้ำจะน้อยลง ทำให้สามารถลงไปเล่นน้ำในแอ่งน้ำใกล้ ๆ น้ำตกได้ พร้อมทั้งยังสามารถทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างการปีนหน้าผาน้ำตกได้ด้วย
15. บลู ลากูน วังเวียง
ที่เที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของวังเวียง ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 3 แห่ง ซึ่งทั้งหมดมีลักษณะเป็นบ่อน้ำผุด โดยน้ำในบ่อจะเป็นสีฟ้าสวยใสเย็นฉ่ำ เนื่องจากผุดขึ้นมาจากชั้นหินด้านล่างไหลเรื่อยผ่านดินและหินขึ้นมาเรื่อย ๆ จึงทำให้น้ำใส เมื่อผสมกับแร่ธาตุบางอย่างจึงทำให้มีสีฟ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะลงไปเล่นน้ำได้ มีทั้งชิงช้า แพไม้ไผ่ เชือกให้กระโดดน้ำ พร้อมกับมีเสื้อชูชีพไว้บริการ
16. Nam Xay Top วังเวียง
จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของวังเวียง ตั้งอยู่บนเขาสูงซึ่งสามารถมองเห็นวิวภูเขาน้อยใหญ่และทุ่งนาป่าเขาที่อยู่โดยรอบได้แบบ 360 องศา โดยที่จุดชมวิวจะเป็นหินบะซอลต์สีดำรูปลักษณ์แปลกตา และที่สำคัญยังมีการนำมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์มาตั้งไว้ที่จุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเท่ ๆ กันด้วย การจะขึ้นไปยังจุดชมวิวจะต้องเดินขึ้นเขามีความชันระดับหนึ่ง จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
17. ทุ่งไหหิน เชียงขวาง
โบราณสถานอันโดดเด่น ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้างห่างจากเมืองโพนสะวันราว ๆ 7 กิโลเมตร โดยเป็นทุ่งหญ้าที่มีไหหินขนาดน้อยใหญ่ตั้งกระจายตัวอยู่บนพื้นที่กว้าง ซึ่งมีมากกว่า 200 ไห สันนิษฐานว่ามีมามากกว่า 2,000-3,000 ปี มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาหลายอย่าง บ้างก็ว่าไหเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ชงเหล้าฉลองชัยชนะของกษัตริย์โบราณที่ต่อสู้กับยักษ์ บ้างก็ว่าใช้ในการเก็บกักน้ำฝนสำหรับกองคาราวานที่เดินทางระยะไกลในเส้นทางแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีทุ่งไหหินอีก 2 แห่งที่อยู่ในแขวงเชียงขวางให้ได้ไปเที่ยวชมอีกด้วย
18. Gibbon Experience บ่อแก้ว
อีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวลาวที่จะให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับป่าเขา และวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายอย่างแท้จริง พร้อมกับยังจะได้สนุกสนานไปกับการห้อยโหนซิปไลน์กลางป่าใหญ่ ได้นอนบนบ้านต้นไม้สูงแบบทาร์ซาน ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์สุด ๆ ซิปไลน์แต่ละจุดจะมีความสูงและยาวแตกต่างกันออกไป โดยสถานีที่ยาวที่สุดจะอยู่ที่ 600 เมตรเลยทีเดียว โดยจะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับบรรยากาศดังกล่าวภายในพื้นที่ของ Bokeo National Park ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ gibbonexperience.org
19. ถ้ำกองลอ คำม่วน
เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว ตั้งอยู่ในเมืองคูนคำ แขวงคำม่วน ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 นครพนม ราว ๆ 170 กิโลเมตร ด้านในของถ้ำมีความลึกถึง 7 กิโลเมตร โดยจะมีทางน้ำไหลผ่านถ้ำ โดยทางน้ำดังกล่าวนั้นก็คือ แม่น้ำภูหินบูน นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือเข้าไปชมบรรยากาศภายในถ้ำ และได้แวะลงเที่ยวชมตามจุดหินงอกหินย้อยสวย ๆ พร้อมทั้งหาดทรายกว้างภายในถ้ำ แล้วนั่งเรือทะลุไปยังอีกฝั่งของถ้ำ
20. ถ้ำเวียงไซ หัวพัน
เป็นอีกหนึ่งถ้ำที่น่าสนใจของลาว ตั้งอยู่ที่เมืองเวียงไซ แขวงหัวพัน ทางด้านทิศตะวันออกของประเทศลาว มีลักษณะเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ด้านในยาวราว ๆ 140 เมตร มีการขุดเจาะให้กลายเป็นห้องต่าง ๆ ที่สามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 20,000 คน ด้วยที่นี่เคยเป็นสถานที่หลบภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในขณะนั้นผู้นำต่าง ๆ จะมีฐานประจำการอยู่ภายในถ้ำกว่า 12 แห่งในประเทศลาว โดยถ้ำที่มีชื่อเสียง ก็คือ ถ้ำเวียงไซ แห่งนี้นี่เอง ห้องที่น่าสนใจภายในถ้ำเวียงไซ อาทิ ห้องนอน, ห้องประชุม, ห้องรับแขก, ห้องหลบภัย และห้องสำหรับเล่นกีฬา เป็นต้น