ข้อมูลท่องเที่ยวมาเก๊า

ข้อมูลท่องเที่ยวมาเก๊า

ข้อมูลทั่วไป

ที่ตั้ง
 เขตปกครองพิเศษมาเก๊า มีเนื้อที่ทั้งหมด 29.2 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยคาบสมุทรมาเก๊ามีพื้นที่ 9.3 ตารางกิโลเมตรซึ่งติดต่อกับจีนแผ่นดินใหญ่, เกาะไทปา(Taipa) 6.7 ตารางกิโลเมตร เกาะโคโลอาน(Coloane) 7.6 ตารางกิโลเมตร และโคไท ”COTAI” พื้นที่ซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่จากการถมทะเลอีก 5.6 ตารางกิโลเมตร

         ระหว่างคาบสมุทรมาเก๊ากับเกาะไทปา เชื่อมถึงกันด้วย สะพาน 3 สะพาน คือ สะพานมาเก๊า-ไทปา ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร, สะพานมิตรภาพ (Friendship Bridge) ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร และสะพานกูวือร์นาดอร์ นอบรือ ดือ การ์วาลญู (Governor Nobre de Carvalho) หรือสะพานไซวานซึ่งเปิดใช้เมื่อวันที่ 09 มกราคม ค.ศ.2005 เป็นสะพาน 2 ชั้น ชั้นล่างจะเปิดเฉพาะช่วงมีไต้ฝุ่นเข้ามาเก๊าเท่านั้น สะพานนี้มีความยาว 2.2 กิโลเมตร
          นอกเหนือจากบริเวณด่านกงเป่ยหรือขงปั๊กแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้โดยผ่านด่านพรมแดนโคไท ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเกาะไทปาและโคโลอาน

ประชากรและภาษา
ปัจจุบันมาเก๊า มีประชากรรวมทั้งสิ้นประมาณ 557,400 คน 94%เป็นชนชาวจีนที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ อาทิ กวางตุ้ง และฟูเจี้ยน ส่วนที่เหลืออีก 6% เป็นชาวโปรตุเกส ยุโรป และชนชาติอื่นๆ 

ภาษาจีนและโปรตุเกสเป็นภาษาที่ใช้ในราชการ แต่ภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของคนท้องถิ่น ส่วนภาษาอังกฤษใช้ทั่วไปตามร้านค้า ภัตตาคาร และโรงแรม 

ภูมิอากาศ
มาเก๊า มีภูมิอากาศค่อนข้างอบอุ่น โดยเฉลี่ยอยู่ราว 20 องศาเซลเซียส (68 ฟาเรนไฮด์) หรือระหว่าง 16-25 องศาเซลเซียส มีความชื้นสัมพัทธ์สูงเฉลี่ย 73%-90% โดยแบ่งเป็นฤดูกาลต่างๆ ได้ดังนี้ 

  • ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม – ธันวาคม) ถือเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด เหมาะแก่การท่องเที่ยว
  • ฤดูหนาว (เดือนมกราคม – มีนาคม) แม้ว่าจะมีอากาศค่อนข้างหนาว แต่ก็มีแสงแดด ให้พออบอุ่น เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปสัมผัสอากาศหนาว
  • ฤดูร้อนและฝน (เดือนเมษายน - กันยายน) ในช่วงนี้อากาศจะเริ่มร้อนอบอ้าว และมีความชื้น สัมพัทธ์สูงในบางช่วงจะมีฝนตกและมักเกิดพายุไต้ฝุ่นราวเดือนมิถุนายน – สิงหาคม กรณีที่เกิดพายุไต้ฝุ่นถึงระดับ8 สะพานเชื่อมไทปา, โคโลอาน จะถูกปิดลงชั่วคราว ขณะเดียวกันการเดินเรือโดยสารและเที่ยวบินต่างๆ ระหว่าง มาเก๊า-มาเก๊า จะถูกยกเลิกชั่วคราว จนกว่าจะปลอดภัย


ระเบียบการเข้าเมือง
 มาเก๊ายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษาเข้าสู่มาเก๊า ดังนั้น นักท่องเที่ยวเกือบทุกชาติศาสนาจึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำวีซ่า ยกเว้นบางประเทศเท่านั้น (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.macautourism.gov.mo/en/info/get2macau.php) สำหรับนักท่องเที่ยวสัญชาติไทย สามารถเดินทางเข้ามาเก๊าโดยไม่ต้องทำวีซ่า และสามารถ พำนักอยู่ในมาเก๊าได้คราวละไม่เกิน 30 วัน ข้อมูลเรื่องวีซ่าดูเพิ่มเติมได้ที่ www.fsm.gov.mo

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดิน ทางต่อไปยังเมืองจีนจะต้องมีวีซ่า สามารถดำเนินการผ่านทาง CTS (China travel Service) โดยในมาเก๊าจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เลขที่ 35 Rua de Nagazaki โทรศัพท์ (853) 28700888 หรือที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรทีกงเป่ย / ขงปั๊ก (Gongbei) ซึ่งวีซ่าที่ออกให้เป็นวีซ่าที่ใช้พำนักอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองจูไห่ ได้เป็นเวลา 3 วัน ส่วนนักท่องเที่ยวที่ถือพลาสปอร์ตโปรตุเกส สามารถติดต่อได้ที่สถานกงสุลโปรตุเกส ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 45 Rua Pedro Nolasco da Silva หรือโทรศัพท์ (853) 28356660-2

 

หน่วยเงินของมาเก๊า

  • สกุลเงินของมาเก๊า มีชื่อเรียกว่า “ปาตากาส์” (MOP$) 1 ปาตากาส์ มีค่า 100 อาโวส(AVOS) ซึ่งค่าเงินดังกล่าวกำหนดเป็นธนบัตรและเหรียญ โดยแบ่งออกเป็น
  • เหรียญ 10, 20 และ 50 อาโวส : 1, 2, 5 และ 10 ปาตากาส์
  • ธนบัตร 10, 20, 50, 100, 500 และ 1,000 ปาตากาส์
  • ค่าเงินสกุลปาตากาส์ของมาเก๊าผูกติดกับเงินสกุลดอลล่าร์ของฮ่องกงซึ่งนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 103.20 ปาตากาส์ =100ดอลล่าร์ฮ่องกง จะมีค่าความเปลี่ยนแปลงอยู่ไม่เกิน 10% 
  • เงินดอลล่าร์ฮ่องกง เป็นที่ใช้กันแพร่หลายในมาเก๊า โดยมักจะใช้แลกเปลี่ยนในอัตรา 1 ต่อ 1 คือ หากมูลค่าสินค้าเท่ากับ 5 MOP$ ก็สามารถชำระเป็น 5 HK$ ก็ได้ 

>ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงิน Macau Pataca (MOP)

 

อาหารการกิน
มาเก๊า เป็นสวรรค์ของนักกิน ไม่แพ้ที่ใดในโลก ด้วยมีอาหารหลากหลายชนิด และหลากหลายชาติให้ได้ลิ้มรสกัน ที่พลาดไม่ได้เมื่อไปถึงมาเก๊า ก็ต้องเป็นอาหารประจำชาติ ที่เรียกกันว่า “อาหารแมคกันนีส” และ “อาหารโปรตุเกส” ซึ่งไม่สามารถหาทานได้ในเมืองไทยอย่างแน่นอน อาหารแมคกันนีส” อาหารประจำชาติของมาเก๊าเป็นอาหารที่ผสมผสานเอารสชาติและเครื่องปรุงจากนานา ชาติ ทั้ง ยุโรป อเมริกาใต้ แอฟริกา และ เอเชียมาไว้ด้วยกันในแต่ละจาน ตกแต่งสไตล์ยุโรป เพิ่มเสน่ห์และรสชาติในการรับประทานด้วยไวน์ชั้นเลิศของโปรตุเกสก็จะได้ความ อร่อยมากขึ้น การปรุงอาหารในครัวแมกกานีส ยังเป็นการนำกรรมวิธีการปรุงแบบตะวันตก (อบ ย่าง สตูว์ ตุ๋น) มาเข้าคู่กับเครื่องปรุงของเอเชีย เช่น ผงกระหรี่ กะปิ กุนเชียง และต้นหอม หรือไม่ก็สลับกันโดยการนำเอาการปรุงแบบฉบับของจีน เช่น ผัดไฟแรง ทอด นึ่ง มาผสมกับเครื่องปรุงของยุโรป เช่น ปลาคอด น้ำมันมะกอก มะกอกดอง เนื้อสับ มันฝรั่ง และไส้กรอกหมูเค็มของโปรตุเกสที่เรียกกันว่าโซริโซ่ (Chorizo) 
         อาหารโปรตุเกส เป็นอาหารยุโรปใต้ที่มีชายฝั่งติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีส่วนประกอบหลัก คือ อาหารทะเลทุกประเภท เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ปรุงแบบง่ายๆ เช่น ย่างถ่าน ตุ๋น นึ่งกับสมุนไพรและเครื่องปรุงที่หาได้ในภาคใต้ของยุโรป เช่น น้ำมันมะกอก เกลือทะเล น้ำส้มไวน์ขาว ผักชี และกระเทียม เป็นหลัก

 

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ มาเก๊า

• ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล 
ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลหมายถึงฟาซาดด้านหน้าของโบสถ์มาแตร์ เดอี (Church of Mater Dei) ที่สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1602-1640 แต่โดนพิษไฟไหม้ในปี 1835 ทำให้วิทยาลัยเซนต์ปอลที่อยู่ติดกับโบสถ์ ก็กลายเป็นซากด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้ว โบสถ์มาแตร์ เดอีเดิม วิทยาลัยเซนต์ปอล (St. Paul’s College) และป้อมปราการ (Mount Fortress) เป็นสิ่งปลูกสร้างของพระนิกายเยซูอิต และตั้งใจก่อร่างให้เป็นดั่งอะโครโปลิสแห่งมาเก๊า ซากโบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่ของวิทยาลัยเซนต์ปอล คือประจักษ์พยานการก่อตั้งมหาวิทยาลัยของตะวันตกใน ภูมิภาคตะวันออกไกล และได้รับการวางหลักสูตรการศึกษาไว้อย่างพิถีพิถัน ขณะที่ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ในปัจจุบันถูกมาเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า

 

• องค์รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 
โปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า เนื่องในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน ลักษณะขององค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นรูปปั้นสีทอง ที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายชาวตะวันตกประดิษฐานบนดอกบัว ภายในฐานรูปปั้นจะเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งแสดงประวัติความเป็นมา ตลอดจนวัตถุประสงค์และขั้นตอนในการก่อสร้าง รวมทั้งจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ให้ประชาชนเข้ามานั่งสมาธิ บริเวณนี้เป็นสถานที่ซึ่งชาวมาเก๊า นิยมมาพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุดแห่งหนึ่ง

 

• มาเก๊าทาวเวอร์ / ศูนย์รวมความบันเทิง 

เป็นหอคอยที่มีความสูงเป็นอันดับ 10 ของโลกและเป็นอันดับ 8 ของเอเชียมีความสูง 338 เมตร เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.2001 โดยภายในมาเก๊าทาวเวอร์ นอกจากเป็นศูนย์กลางการค้าและห้องจัดประชุมสัมมนา ภัตตาคาร โรงภาพยนตร์และโรงละครแล้ว ยังมีกิจกรรมท้าทายความกล้าอย่างเช่น Mast Climb การปีนขึ้นไปที่ความสูง 338 เมตร หรือ Sky Walk และ Skywalk X กิจกรรมการเดินชมวิวโดยรอบหอคอยที่ความสูง 216 เมตรและ 233 เมตร หรือการกระโดดจากหอคอยลงสู่เบื้องล่างอย่าง Sky Jump หรือ Bunjy Jump ก็เป็นอีกกิจกรรมกระตุ้นต่อมอะดรีนาลินที่อยากท้าให้ไปลอง

 

• โบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ 

โบสถ์ที่สร้างโดยคณะนักบวชเยซูอิตเมื่อตอนกลางศตวรรษ 16 แต่สัดส่วนและหน้าตาของอาคารปัจจุบันได้รับการปรับปรุงเมื่อ ค.ศ. 1846 เป็นหนึ่งในสามโบสถ์เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า ตั้งอยู่ริมทะเลทางชายฝั่งตอนใต้ของมาเก๊า บรรดาครอบครัวของเหล่ากลาสีมักมารวมตัวกันที่บันไดหน้าโบสถ์ เพื่อสวดมนต์ และเฝ้ารอการกลับมาของคนรัก จึงมีอีกชื่อว่า หอแห่งสายลมปลอบประโลม (Feng Shun Tang-Hall of the Soothing Winds) นอกจากนี้ สัดส่วนและสถาปัตยกรรมของอาคาร ที่มีโครงสร้างสไตล์นีโอคลาสสิก และการตกแต่งอย่างบารอก ยังบ่งถึงความมั่งคั่งของย่านที่ตั้งโบสถ์อีกด้วย
โบสถ์ที่งดงามและหรูหราที่สุดในมาเก๊า ไม่เพียงเพราะการตกแต่งเท่านั้น หากแต่สิ่งของที่จัดแสดงอยู่ภายในก็มีความสวยงามล้ำค่า เดิมตัวอาคารโบสถ์ทำด้วยไม้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1560

 

• วัดอาม่า 
วัดอาม่าคือศูนย์รวมจิตใจชาวมาเก๊า ประกอบไปด้วยประตูทางเข้า ซุ้มประตูแห่งการรำลึก หอสวดมนต์ หอแห่งความเมตตา หอเจ้าแม่กวนอิม และศาลาเซิ้งเจ้าชานหลิน ที่ล้วนอุทิศให้แด่เทพศักดิ์สิทธิ์องค์ต่างๆ ทำให้วัดอาม่า ซึ่งก่อร่างมาก่อนที่ประเทศมาเก๊าจะกำเนิดขึ้น เป็นตัวแทนอันน่ายกย่องในการบอกเล่าถึงวัฒนธรรมจีน ที่หล่อหลอมอยู่ในศรัทธาแห่งลัทธิเต๋า ขงจื้อ พุทธศาสนา และความเชื่อในเทพนิทานพื้นบ้านต่างๆ

 

• รูปปั้นอาม่า 
ตั้งอยู่บนยอดเขาโคโลอาน เป็นที่ประดิษฐานองค์รูปปั้นอาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเลผู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวประมงมานานหลายชั่วอายุคน องค์รูปปั้นของอาม่า ทำด้วยหินอ่อนแกะสลักอย่างงดงาม ตั้งตระหง่านเหนือยอดเขาโดยมีความสูงประมาณ 19.99 เมตร ซึ่งจากจุดนี้คุณสามารถชมทัศนียภาพของเมืองมาเก๊า และบริเวณโดยรอบดินแดนปากแม่น้ำเพิร์ลได้ชัดเจน

 

• พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมาเก๊า 
ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตวัฒนธรรมมาเก๊าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีเครื่องพิมพ์ตัวแรกในมาเก๊า โรงหนังท่ามกลางแบบจำลอง 3 มิติ เครื่องสะท้อนภาพบนกระจก เพื่อการวาดภาพจำลองภาพถ่าย” อันเป็นวิวัฒนาการก่อนมาสู่กล้องตัวแรกๆของโลก การถ่ายภาพแบบสเตอริโอแกรม(มุมมองแบบ 3 มิติ) ที่มีมาแต่โบราณ,ฯลฯ บริเวณรอบนอกของอาคาร จัดแสดงปืนใหญ่โบราณซึ่งบางกระบอกก็ยังสามารถใช้การได้ จากบริเวณนี้คุณสามารถชมทัศนียภาพความงามของเมืองมาเก๊าได้อย่างเต็มตา รวมทั้งซื้อหาสินค้าหรือของที่ระลึกจากมาเก๊า กลับมาเป็นของฝากได้อีกด้วย

 

• พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 
มีอยู่ด้วยกัน 5 ชั้น ประกอบไปด้วย พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานด้านศิลปะของจีน เครื่องกระเบื้องเซรามิก ภาพวาดลายเส้น ตัวอักษรจีนโบราณ ตลอดจนภาพสีน้ำของศิลปินชื่อดัง อย่าง George Chinnery, Auguste Borget และ A. Smirnoff ที่ล้วนแล้วแต่สะท้อนให้เห็นภาพชีวิต และวัฒนธรรมของชาวมาเก๊าได้อย่างชัดเจน พื้นที่อีก 2 ส่วนจัดไว้สำหรับการแสดงนิทรรศการ และจัดกิจกรรมการสัมมนาต่างๆ

 

• พิพิธภัณฑ์รถแข่งกรังปรีซ์ 
มาเก๊ามีการจัดแข่งขันรถกรังปรีซ์สูตร 3 มานานกว่า 55 ปีแล้ว ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จึงได้รวบรวมรถที่ใช้ในการแข่งขันจริง ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มาจัดแสดงให้ได้ชมกัน ณ บริเวณชั้นใต้ดิน ของศูนย์กิจกรรมนักท่องเที่ยว (Tourism Activities Centre) ให้คุณได้สัมผัส และศึกษาเกี่ยวกับการแข่งขันมาเก๊ากรังปรีซ์ พร้อมสนุกสนานกับเครื่องซิมูเลเตอร์ ที่จำลองบรรยากาศของการขับรถแข่งได้ด้วยตนเอง

 

• จัตุรัสเซนาโด้ 
กลายเป็นศูนย์รวมของชาวเมืองมานับศตวรรษ และยังคงเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองยอดนิยมทั้งหลาย ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารสภาสูงเดิมและวัดซำไก วุยคุน ทั้งบ่งถึงความร่วมมืออย่างแข็งขันของชุมชนชาวจีนท้องถิ่น ที่มีต่องานราชการเมือง ขณะเดียวกัน ยังเป็นตัวอย่างเด่นชัด ที่แสดงถึงการคลุกเคล้าทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของชาวมาเก๊า โดยอาคารที่รายรอบจัตุรัสเซนาโด้ ล้วนเป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกที่ทาสีพาสเทลอันอ่อนโยน สะท้อนถึงบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน

 

• The Venetion Resort 
เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า เป็นชื่อโรงแรมหรูในมาเก๊า ภายในมีห้องพักรับรองหลายพันห้อง มีห้องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ให้บริการ และมีบ่อนคาสิโนที่นักพนันและนักท่องเที่ยวระดับมาเล่นกันเพื่อความสนุกสนานมากกว่าเล่นเพื่อผลาญทรัพย์เชิงอบายมุข ตลอดจนมีแหล่งชอปปิ้งระดับโลกรวมอยู่ในที่เดียวกัน และยังมีเรือกอนโดลาบริการสำหรับผู้ต้องการล่องเรือในบรรยากาศเวนิสจำลองด้วยเช่นกัน
 

•  เที่ยวคุ้มกว่า ไปเที่ยวสามเมืองเศรษฐกิจน่าเที่ยว ฮ่องกง มาเก๊า เซินเจิ้น 
เนื่องจาก ฮ่องกง มาเก๊า และ เซินเจิ้น เป็นเขตเศรษกิจพิเศษและเขตบริหารพิเศษ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกัน จึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คน เดินทางไปเยื่ยมเยือน ทั้งสามเขตนี้อยู่เนืองๆ สำหรับคนที่ได้ไปเยือนฮ่องกง แล้วไม่ได้ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวในมาเก๊าหรือ เซินเจิ้นนั้นเป็นสิ่งที่น่าเสียดายนัก เพราะว่า ทั้งสามเขตขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน่าเที่ยวเมืองหนึ่งใน เอเชียเลยทีเดียว อ่านข้อมูลท่องเที่ยว เซินเจิ้น และ ฮ่องกง เพิ่มเติมได้ที่นี่

ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
Share on social networks
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ศูนย์รวมทัวร์ต่างประเทศ
ติดต่อสำนักงาน
บริษัท กูรูทริป จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/09033

88/35 หมู่บ้านดุสิตแกรนต์ปาร์ค แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510

จันทร์ - เสาร์ (09.00 - 19.00)
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา